1. ประสานการและควบคุมการสัมผัสของร่างกาย

    การเรียนเปียโน จะต้องใช้ร่างกายในการเล่นถึงหลายส่วนและต้องมีความสัมพันธ์กัน ช่วยพัฒนาการมองเห็นและรู้จักโฟกัส เนื่องจากต้องจดจำตัวโน้ตและช่วยในการกดคีย์ซึ่งมีทั้งคีย์ขาวและคีย์ดำหู ช่วยฝึกพัฒนาการฟังและช่วยให้ผ่อนคลายเนื่องจากต้องอาศัยหูฟัง จังหวะ ทำนองและน้ำหนักนิ้วมือที่กดลงบนคีย์ มือ ช่วยในการบรรเลงเพลง ซึ่งจะมีการขยับนิ้วมือในทิศทางที่ติดต่างกันส่งผลต่อสมองที่สั่งการ ถือเป็นการบริหารสมองที่ดีมาก เท้า จะสัมพันธ์กับคันเหยียบ 3 คันซึ่งจะมีบทบาทที่แตกต่างกันไป จึงช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง

2. อดทน และแก้ปัญหาได้ตรงจุด

    เคยสังเกตไหมว่า นักเปียโนหลายคนจะมีทักษะการแก้ปัญหาที่ดี เนื่องจากการเรียนเปียโนต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ บวกกับการแก้ปัญหาอดทน รวมถึงการสร้างทัศนคติที่ดีเพื่อก้าวไปสู่อีกขั้นนั่นเอง

3. เสริมบุคลิกภาพให้สง่าและดูดี

    การเรียนเปียโนไม่เพียงแต่ช่วยสร้างความสามารถทางดนตรี แต่ยังส่งเสริมบุคลิกภาพ ด้วยการฝึกท่านั่งอย่างถูกวิธี ทำให้ภาพลักษณ์ของผู้เล่นดูดี มีสง่าผ่านพลังที่ถ่ายทอดอารมณ์และมุมมองต่าง ๆ ผ่านบทเพลงด้วยนิ้วสัมผัสบนคีย์ และการทำงานของร่างกายที่ประสานกันได้อย่างลงตัว

4. ลดความเครียด รักษาอาการซึมเศร้า

    การเรียนเปียโนเป็นวิธีที่ง่าย ในการช่วยปรับอารมณ์โดยไม่ต้องพึ่งยา ด้วยกระบวนการอ่านดนตรีที่จะช่วยให้เด็กไปจนถึงผู้สูงวัย รับมือและจัดการกับความเครียดได้ดี ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ระดับฮอร์โมนความเครียดลดลง และเมื่อนำไปรักษาร่วมกับการรักษาทางการแพทย์ก็พบว่า ทำให้เจ็บปวดน้อยลง และนอนหลับได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

5. ประตูสู่ความสำเร็จ

    ข้อดีของการเล่นเปียโน จะช่วยฝึกทักษะที่จำเป็นเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จ เช่น การอดทน การขยันฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ การรู้จักแบ่งเวลา รักษาเวลา การตั้งเป้าหมาย หรือการยอมรับคำติชมจากครูผู้สอน รวมถึงพัฒนาทักษะอื่น ๆ เช่น การพูด การจดจำ ภาษา สมาธิและการแสดงออกทางอารมณ์ถูกหล่อหลอมจนสมบูรณ์แบบ