1. Synthesizer (ซินธิไซเซอร์)

การทำงานหลัก เป็นเครื่องมือที่สร้างเสียงด้วยการสังเคราะห์เสียง (sound synthesis) ไม่ว่าจะเป็นเสียงสังเคราะห์ใหม่ หรือการจำลองเสียงของเครื่องดนตรีอื่น เช่น เปียโน กีตาร์ หรือเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ

การปรับแต่งเสียง มีความสามารถในการควบคุมและปรับแต่งเสียงได้ละเอียด เช่น การปรับ waveforms (sine, square, sawtooth), filters, envelope, modulation (LFO) เป็นต้น

ประเภทของเสียง เน้นเสียงที่หลากหลายและบางครั้งไม่จำเป็นต้องเลียนแบบเครื่องดนตรีจริง เป็นที่นิยมในดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์ (เช่น EDM, synthwave)

อินเทอร์เฟซ อาจมีแป้นพิมพ์ (keyboard) หรือไม่มีแป้นก็ได้ (บางรุ่นต้องควบคุมผ่านคอนโทรลเลอร์แยกต่างหาก เช่น MIDI Controller)

2. Keyboard (คีย์บอร์ด)

การทำงานหลัก เป็นเครื่องดนตรีที่เน้นการเล่นด้วยแป้นพิมพ์ (keyboard) และมักมาพร้อมเสียงสำเร็จรูป (preset sounds) เช่น เปียโน ออร์แกน หรือไวโอลิน

การปรับแต่งเสียง โดยทั่วไปปรับแต่งเสียงได้ไม่ละเอียดเท่าซินธิไซเซอร์แม้จะสามารถปรับเอฟเฟกต์พื้นฐานได้ เช่น reverb หรือ chorus

ประเภทของเสียง เน้นเสียงที่เลียนแบบเครื่องดนตรีจริงสำหรับการแสดงสดหรือการซ้อม เช่น เปียโนไฟฟ้า หรือเสียงสตริง

อินเทอร์เฟซ มาพร้อมแป้นพิมพ์เสมอ และบางรุ่นมีฟังก์ชันเสริม เช่น จังหวะ (rhythm patterns) หรือระบบอัตโนมัติ (auto-accompaniment)

สรุปข้อแตกต่างหลัก

ความซับซ้อนของเสียง

Synthesizer สามารถสร้างและปรับเสียงได้ลึกกว่า ส่วนคีย์บอร์ดเน้นเสียงสำเร็จรูปและใช้งานง่าย

การใช้งาน

Synthesizer นิยมใช้ในดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการเสียงเฉพาะ ส่วนคีย์บอร์ดเหมาะกับการเล่นดนตรีทั่วไป เช่น การซ้อมหรือการแสดงสด

แป้นพิมพ์

Synthesizer บางรุ่นไม่มีแป้นพิมพ์ในตัว แต่คีย์บอร์ดทุกตัวมีแป้นพิมพ์ในตัว

สรุป

ทั้งสองอย่างมีจุดเด่นในแบบของตัวเอง ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้ต้องการสร้างสรรค์เสียงแบบไหนหรือใช้งานในสถานการณ์ใดเป็นหลักครับ

เปียโนดีเปียโนเด็ด ต้องPiano United

ติดต่อสอบถาม

โทร 063-419-1111 หรือ  LINE  PianoUnited.  มีด้วยกัน 2 สาขา บริการลูกค้าด้วยใจ 

Happy Hub Avenue ถ.สุคนธสวัสดิ์ (สาขา1)

สาขาราชพฤกษ์ (สาขา2) 

#กดโทรได้เลยนะครับ ยินดีบริการครับ